สำหรับงานของผมแล้ว สิ่งที่คอยเตือนผมเสมอมาคือ "วันนี้เราทำอะไรให้กับเด็กแล้วหรือยัง" คิดและนึกถึงว่าในแต่ละวัน เราให้อะไรเขาไปบ้าง เขาเอาอะไรจากเราไปใช้บ้าง หรือนำไปเป็นแบบอย่าง เพียงแค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว การอบรมสั่งสอนเด็กนั้นมันจะไม่ได้เห็นผลภายในวันสองวัน หรือเดือน ปี แต่เขาจะรู้ก็ต่อเมื่อเขาได้ประสบกับตัวเขาเองและจะนึกถึง คำสั่งสอนของเรา
การทำงานในช่วงนี้เยอะมากหาเวลาให้กับครอบครัว ตัวเอง ยากจริง จันทร์-ศุกร์ ทำงานกว่าจะกลับถึงบ้านเกือนทุ่มทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ เรียนโท ช่วงนี้กำลังทำ is เตรียมสอบ ประมวลความรู้ และสอบอังกฤษ ทั้งสามจะต้องผ่านจึงจะจบ ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร เป็นอย่างนี้ทุกสัปดาห์ ความเมื่อยล้า อ่อนเพลีย มันเกิดขึ้นสะสม เราต้องรู้จักบริหารมันให้ได้ จึงจะผ่านช่วงเวลาที่ยากนี้ไปให้ได้ แต่ในความยากลำบากมันก็ยังมีแสงสว่างเล็กๆที่เป็นแรง กำลังใจในการทำงานและดำเนินชีวิตอยู่ได้ "ครอบครัว" คำนี้แหละที่ทำให้ต้องสู้
ที่ผ่านมาได้ทำอะไรไปมากหมายหมาย เช่นการเดินระบบแลนในโรงเรียน ช่วยประหยัดงบประมาณของโรงเรียนได้หลายหมื่นบาท จัดกิจกรรมการเรียนการสอนในชั่วโมงที่เน้นให้พวกเขา คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ (การทำโครงงาน)
โพสต์ by ครูก้อย นองขมวด.
ขอบคุณทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผมเข้มแข็งขึ้นและรู้จักแก้ปัญหาและอุปสรรค ให้ผ่านไปด้วยดี ขอบคุณบุคคลทั้งหลายที่เข้ามาในชีวิตและมีส่วนช่วยผลักดันให้ผมได้แสดงศักยภาพตนเองและรู้ว่าตนเองอยู่ในระดับใด ผมก็เพียงจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นเรื่อย สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เพราะผมคิดมุมกลับ คิดบวกเสมอ และที่สำคัญถ้าเราอยากมีความสุขจงนึกถึง "ทำอะไรให้สนุก ความสุขจะเกิด" แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขแล้วครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น